การปฏิบัติงาน และการบำรุงรักษา ระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงาแสงอาทิตย์
บทความดังต่อไปนี้ อาจจะขัดแย้ง ต่อ นักขาย ทั้งหลายครับที่ชอบโฆษณา ชวนเชื่่อเพื่อให้ขายระบบได้ แล้วก็หมดความรับผิดชอบไป แต่บทความนี้ จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนามาตรฐาน ของงานวิศวกรรม อันจะเป็นประโยชน์และนำไปพัฒนากันต่อๆไป
นักการขาย หลายคน ชอบที่จะบอกนักลงทุน เสมอๆ ว่า ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่จำเป็นต้องใช้คนมากในการดูแล การบำรุงรักษาง่าย แค่ล้างแผ่นปีละครั้งสองครั้งก็พอ แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าการติดตั้งระบบเริ่มต้นจาก การทำงานที่ไม่มีมาตรฐานทั้งการออกแบบ การติดตั้ง การควบคุมงาน และการบำรุงรักษา ไม่ดีพอ รวมทั้ง ไม่มีพื้นฐานความรู้ ในอุปกรณ์แต่ละชนิด แน่นอนครับ ความเสี่ยงทั้งหลาย ย่อมตกเป็นของนักลงทุน
ประสบการณ์ การเป็นวิศวกรในงานระบบไฟฟ้าทั้งไฟฟ้าเครื่องกล ไฟฟ้าอาคาร โรงงาน และ ได้ประสบการณ์ในการอยู่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มากว่า 2 ปี ทำให้ เห็นถึงความสำคัญของการ ปฏิบัติงานและ การบำรุงรักษาระบบ
ความสำคัญของ การจัดการโครงสร้างองค์กร และแผนบริหารจัดการ การปฏิบัตงาน สำหรับผู้ปฏิบัติงานในโรงงานผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ต่อการพัฒนาขีดความสามาถ เพื่อให้ระบบทำงานได้ มีประสิทธิภาพสูงสุด และคุ้มค่าต่อการลงทุน ตลอดอายุ การใช้งานของอุปกรณ์
แนวทางในการ บริหาร จัดการ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
1. สัญญา O&M ( Operate & Maintenance )
ภาษาไทย น่าจะคือ สัญญา การเดินระบบและซ่อมบำรุง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
โดยส่วนใหญ่ สัญญางานก่อสร้างและงานเดินระบบและซ่อมบำรุง ในช่วงหลังจากเปิดเดินระบบ ขายไฟอย่างเป็นทางการแล้ว เจ้าของของนักลงทุน มักจะทำสัญญา O&M กับผู้รับเหมา ในการติดตั้งเดิม อันต่อเนื่องมาจาก สัญญา EPC ที่จะต้อง รับประกันงานติดตั้ง
ด้วยเหตุ ที่สัญญา O&M ปีแรกๆ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้รับเหมาหลัก ในการก่อสร้าง เป็นคนดำเนินการ ดังนั้น เจ้าของหรือนักลงทุน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ใส่ใจ และ วางระบบ ในการทำงาน เพื่อให้ ทางเจ้าของ สามารถ ดำเนินการ ต่อได้ ในกรณีสิ้นสุดสัญญา หรือ ในกรณี ที่จะต้อง ยกเลิกสัญญา ถ้าหาก การปฏิบัติงาน ไม่ได้ มาตรฐาน ตามกำหนด หรือ ค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินการที่สูงขึ้น ทั้งจาก ความตั้งใจ หรือ ไม่ตั้งใจของผู้รับเหมาเอง ดังนั้น เจ้าของโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ จึงต้อง วางกรอบ ดำเนินการไว้ให้ชัดเจน
สัญญา O&M ที่ดี ควรจะ มีการต่อสัญญา ทุกระยะเวลา 2-3 ปี หรือทำการจัดประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคา และ การปรับปรุงประสิทธิภาพ ในการทำงาน รวมทั้ง แต่ละบริษัทฯ ที่ดำเนินการยื่นประมูล จะได้นำเสนอ แนวทางปรับปรุง คุณภาพ ด้านต่างๆ เพื่อให้คุ้มค่าต่อ เม็ดเงิน ในการจ้าง
ข้อดี อีกอย่าง ที่มีการประมูลงาน เดินระบบ ทุกๆ 2-3 ปี
ระหว่างที่สิ้นสุดสัญญา จะมีการ ดำเนินการ ส่งมอบอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทางเจ้าของโรงงานจะได้ รับทราบข้อเท็จจริงว่าอุปกรณ์ใดๆ บ้าง ที่ชำรุดเสียหาย อย่างแท้จริง ซึ่งในขั้นสุดท้าย อาจจะต้องทำการปรับ จากผู้เดินระบบเดิม เนื่องจากในสภาพเป็นจริงแล้ว อุปกรณ์มีการชำรุด แต่ทาง เจ้าของ ไม่ทราบ นั้นมีเยอะ ในทางปฏิบัติ
2. การจัดทำ แผน Master Monitoring Yearly Plan
การจัดทำแผน Master Monitoring Plan เป็นแผนที่มีความสำคัญต่อ การที่เจ้าของ และนักลงทุน ติดตั้งระบบ สามารถที่จะ มองภาพรวมของระบบผลิตไฟฟ้าว่า ผู้ปฏิบัติงาน ในโรงไฟฟ้า มีแผนดำเนินการอย่างไรบ้าง มีงานอะไรที่กำลังดำเนินการอยู่ และ มีงานอะไร ที่ต้องดำเนินการ ในแต่ละปี ตารางด้านล่าง เป็นตัวอย่าง ที่ผู้เขียนได้ จัดทำเพื่อให้ กับผู้รับเหมา เดินระบบ ได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ประจำปี ทำให้สะดวก ในการควบคุม ดูแล และ ประเมินการปฏิบัติงาน
วิธีการ การ จัดทำแผน
โดยการ จัดทำ List รายชื่ออุปกรณ์ ทั้งหมดในโรงงาน และจัดทำ รายการ Preventive maintenace อย่างเป็นระบบ
และ ถูกต้อง ตามหลักวิชาการ ตามแผนการซ่อมบำรุง ประจำ ทุกๆ วัน / เดือน / ไตรมาส / หรือ รายปี
ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์หลักๆ ในโรงงาน ผลิตไฟฟ้า ด้วยโซล่าเซลล์ ขนาด 1-10 MW
- Main Switch Gear / UNI SUB/ RMU / VCB Panel
- Transformer
- PV Panel
- Inverter
- AC LV Panel
- DC LV Panel
- DC Combiner Box
- DC Array combiner Box
- Power Quality Meter
- Thermomether
- Pyranometer
- SCADA System
- CAMERA CCTV
- Electrical Panel
- Lighting system
- Grounding System
- Fence
- Water system
- Sanitary system
- Air cooling system
- Fire alarm system
- Fire extingusure
- Drainage system
- etc...
ว่างๆ แล้วจะมาเขียนต่อ ครับผม
หน้าที่เข้าชม | 208,997 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 147,072 ครั้ง |
เปิดร้าน | 25 ก.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |